วันที่ 19 ก.พ. 67 พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.วีระพงษ์ คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ. ตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักงานกลางแห่งชาติตำรวจสากลกรุงเทพ(Interpol NCB Bangkok) เจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมคดีสำคัญจำนวน 2 คดี
พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า โดยคดีแรกเป็นการจับกุมเครือข่ายลักลอบจำหน่ายฟิลเลอร์เถื่อนและผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายข้ามชาติ หลังนำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายจำนวน 4 จุด ในพื้นที่ จ.นนทบุรี สามารถตรวจยึดผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง รวม 119 รายการ รวมทั้งสิ้น 168,781 ชิ้น มูลค่ากว่า 30,000,000 บาท
เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับประสานจากตำรวจสากล( INTERPOL) ว่าเมื่อประมาณ เดือนตุลาคม 2566 ทางการสิงคโปร์ได้ตรวจยึดฟิลเลอร์เถื่อนและผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย ที่มีการสั่งซื้อผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่งจัดส่งมาจากประเทศไทย จึงจัดกำลังลงพื้นที่สืบหาเบาะแสจนทราบว่าเป็นของกลุ่มเครือข่าย น.ส.นันตพรฯ (สงวนนามสกุล) ที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากประเทศจีน ก่อนนำสินค้ามาพักเก็บไว้ที่โกดังต่างๆในพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อทำการแพ๊คสินค้ากระจายส่งให้ลูกค้าชาวไทย และ กลุ่มลูกค้าต่างชาติในโซนประเทศแถบเอเชีย รวม 4 ประเทศ ประกอบด้วย จีน มาเลเซีย สิงคโปร์ และ เวียดนาม จนนำมาสู่การเข้าตรวจค้นตรวจยึดของกลางได้ดังกล่าว
จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบมีเงินหมุนเวียนจากการขายผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย ปีละไม่ต่ำกว่า 10,000,000 บาท เบื้องต้นเจ้าหนาที่จึงได้ตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง เพื่อขยายผลเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.วีระพงษ์ กล่าวว่า สำหรับคดีที่ 2 ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยองระดมกำลังตรวจค้น 5 จุด ในพื้นที่ จ.ระยอง และ จ.ปทุมธานี เพื่อกวาดล้างจับกุมหมอเถื่อนลักลอบเปิดร้านเสริมสวย และบ้านพัก ให้การบริการฉีดหน้าเสริมความงามให้ประชาชน จากการระดมกำลังตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายทั้ง 5 จุดดังกล่าว สามารถจับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมด 6 ราย แบ่งเป็นหมอเถื่อน 4 ราย, แพทย์จริงแต่ไม่มีใบอนุญาต 1 ราย และเจ้าของสถานที่ 1 ราย ตรวจยึดของกลาง จำนวน 96 รายการ มูลค่ากว่า 500,000 บาท
จากการสอบปากคำส่วนใหญ่พบว่าหมอเถื่อนเหล่านี้ไม่ได้จบการศึกษาเกี่ยวกับแพทย์เวชกรรมโดยตรง อาศัยประสบการณ์จากการเคยทำงานเป็นผู้ช่วยหมอ หรือ เป็นพยาบาล มีเพียงคนเดียวที่จบแพทย์จริง แต่ยังไม่มีใบอนุญาตดำเนินการสถานพยาบาล เบื้องต้นจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
